ไปปารีสอีกแว้วววววววววว ฮู้ววววววววววว ลัลลาจริงๆ
ไปมาทุกปีแต่ไม่เคยเบื่อ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ชอบไปเ้ดิน ถ.ชองป์เอลิเซ่ แหล่ง shopping ทันสมัยที่สาวๆ หลายคนฝันหา มีร้านเบรนด์ดังๆ เยอะแยะเลย เห็นคนต่อแถวเข้าร้าน Louis Vuitton แล้วมีความสุข (ไม่รู้โรคจิตหรือป่าว หุหุ)เคยเข้าไปดูแต่ไม่เคยซื้อคะ งบไม่ผ่านซักที สงสัยต้องอดข้าวไปหลายเดือน(- -)"
ขออนุญาติเอารูปเก่าที่ไปมาปีก่อนๆ มาลงด้วยนะคะ เพราะว่าคราวนี้ตัดบางที่ที่เคยไปแล้วออกไปหลายที่เหมือนกัน เพราะมีเวลาอยู่ปารีสแค่ 2 วันเอง (ตารางแน่นเอี๊ยด อิอิ)
หอไอเฟล Eiffel Tower
สัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่รู้จักกันดีมากที่สุด สร้างระหว่างปี 1887 -1889 ออกแบบโดย กุสตาฟ ไอเฟล ผู้ที่เป็นทั้งสถาปนิกและวิศวกรของฝรั่งเศส เมื่อสร้างเสร็จใหม่ๆ ถูกพวกไม่เห็นด้วยวิพากษืวิจารณ์ว่าไร้รสนิยม ทำลายทัศนียภาพของเมืองปารีส ต่อมากระแสความต้องการของชาวปารีสก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อกลายเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ต่อมามีการติดตั้งเสาวิทยุเพื่อสื่อสารในช่วงสงครามได้อย่างรวดเร็วขึ้น
หอไอเฟลตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแซน บริเวณฐานหอคอยมีร้านขายของที่ระลึกของหอไอเฟลเอง แต่ถ้าหากอยากได้ของถูก ก็หาซื้อกับพ่อค้าผิวดำ ที่เดินเร่ขายอยู่ทั่วไป คุณสามารถต่อรองราคากับพ่อค้าเหล่านี้ได้ไม่ยาก เราเคยซื้อที่เป็นพวงกุญแจหอไอเฟลอันเล็กมาฝากเพื่อนที่เมืองไทยได้ในราคาถูกมากแค่ 1 ยูโร ต่อ 5 อัน
ที่นี่มีจุดชมวิวอยู่ 3 ระดับ คือชั้น 1 ชั้น 2 ซึ่งสามารถเดินขึ้นบันไดหรือใช้ลิฟท์ก็ได้ แต่ชั้น 3 ชั้นบนสุดต้องใช้ลิฟท์เท่านั้น เรายืนมองอยู่นานคิดว่าจะขึ้นไปดีมั้ยน๊า เพราะถ้าเ้ดินขึ้นไปมีหวังเป็นลมก่อนถึงแน่ๆ แล้วเหลือบมาดูจำนวนคนที่ต่อแถวรอขึ้นไป โอแม่เจ้า 2 ชั่วโมงจะได้ขึ้นมั้ยน๊า เลยตัดสินใจอยู่แค่ข้างล่างก็ได้ หุหุ
ไอเฟลทาวเวอร์ตอนกลางวัน
ถ่ายจากมุมนี้จะเห็นสระน้ำด้วย
ส่วนภาพนี้เป็นตอนกลางคืนคะ
ในตอนกลางคืนจะสว่างไสวไปด้วยดวงไฟที่ประดับไฟกระพริบครบทุกดวงเป็นเวลา 10 นาที และทุกๆ 1 ชั่วโมง สวยงามที่สุด
ส่วนเวลาเปิดให้ขึ้นไปหอคอย จะเปิดทุกวัน 9.00 - 24.00 น. ค่าขึ้นชมก็จะมีหลายราคา สำหรับเด็ก และผู้ใหญ่ และเดินขึ้นบันได หรือขึ้นลิฟท์ ราคาผู้ใหญ่ตั้งแต่ 4.5 ยูโร - 13.1 ยูโร และเด็กตั้งแต่ราคา 3 ยูโร - 9 ยูโร เลือกชมกันตามอัธยาศัยคะ
ประตูชัย Arc de Triomphe
ประตูชัยแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของถนนถึง 12 สายกลางวงเวียนซึ่งเรียกว่าจัตุรัสชาร์ลเดอโกล ตรงฐานด้านหนึ่งใช้เป็นทางขึ้น ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ บอกเล่าประวัติการก่อสร้างที่กินเวลายาวนานถึง 30 ปี ถ้าขึ้นไปจนถึงดาดฟ้าจะสามารถของเห็นหอไอเฟล, ยอดเขามงต์มาตร์ทางตอนเหนือ, เสาโอเบลิสก์บนจัตุรัสกงกอร์ด และพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ และถนนชองป์เอลิเซ่ทั้ง 2 สาย แต่ต้องต่อคิวยาวเหยียดอีกเช่นกัน แต่เราก็รอคะ เพราะพลาดที่หอไอเฟลมาแล้ว
ถ่ายจากบนยอดประตูชัยคะ
มองเห็นยอดโบสถ์ซาเกรเกอร์ลิบๆ
ภายในด้านในของประตูชัยคะ
บันไดทางขึ้นเป็นเขาวงกตเลยคะ และแคบด้วย
พิพิธภัณฑ์ที่อยู่ด้านในของประตูชัย
ตอนถ่ายต้องระวังรถดีๆ นะคะ อิอิ
คนจะหยุดถ่ายรูปกันตรงนี้เยอะมาก และต้องรอตอนไฟแดงคะ
ตรงนี้เป็นด้านล่างของประตูชัยคะ
ทางขึ้นเมโทรอยู่ตรงประตูชัยนี่พอดี และถนนเส้นนี้คือ ถ.ชองป์เอลิเซ่ที่ว่าคะ
หน้าร้าน Louis Vuitton
หน้าร้านขนมดังที่ปารีส Laduree แต่ราคาแพงจับใจเหมือนกัน หุหุ
โบสถ์ซาเกรเกอร์ Sacre Coeur
ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดบนเนินเขามงต์มาตร์ สร้างในปี 1923 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับทหารฝรั่งเศส 58,000 นายที่เสียชีวิตในสงครามฝรั่งเศส - ปรัสเซีย ตัวโบสถ์แห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 46 ปี โอมายก็อต!! สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองปารีสอย่างสวยงาม เราชอบไปนั่งตอนค่ำๆ ให้ความรู้สึกโรแมนติกมั่กๆ
ด้านล่างมีเครื่องเล่นให้เด็กๆ เล่นด้วย (ขอยืมรูปเมื่อปีก่อนนู้นมาลงนะคะ)
เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์ของเมืองปารีส เต็มแน่นเอี้ยดไปหมด
คนแน่นเอี๊ยด จับจองพื้นที่เพื่อชมวิวยามค่ำคืน ที่นี่จะมีคนเดินขายเบียร์เย็นๆ ชื่นใจให้ดื่มกันด้วย สำหรับคนที่ไม่ได้คิดว่าจะนั่งนาน เลยไม่ได้เตรียมมา แต่ราคาแพงกว่า supermarket น๊า
โพล้เพล้แล้ว ที่นี่จะมีโชว์มากมาย มีคนร้องเพลงให้ฟัง นี่ก็เป็นหนึ่งในโชว์ คนผิวดำโชว์การเลี้ยงลูกบอล ยอมรับว่าเก่งจริงๆ ได้ใจคนแถวนั้นไปเพียบ มีคนมาขอถ่ายรูปเต็มเลย คงดังแล้วมั้งเนี่ย
ตอนกลางคืนสวยดีเนอะ (หมายถึงวิวนะคะ)
โอเปร่าการ์เนียร์ Opera Garnier
จากจัตุรัสวองโดมขึ้นไปทางเหนือผ่านโรงแรมหรูๆ หลายแห่งไม่นานก็จะเจอถนน 6 เส้นมาบรรจบกันทีี่่จัตุรัสโอเปร่า โดยโรงโอเปร่าจะตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนทางเหนือ เป็นโรงละครที่ีหรูหราทันสมัยที่สุดในปารีส ใช้เวลาสร้าง 13 ปีจึงแล้วเสร็จ มีที่นั่งชมทั้งหมด 5 ชั้น จุนักแสดงได้ถึง 450 คน ด้านในตกแต่งหรูหรา ยอดโดมทำด้วยทองแดงสีเขียว เปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 - 17.30 น. ค่าเข้าชม 9 ยูโร
ส่วนด้านหลังของโรงโอเปร่าจะมีห้างใหญ่และมีชื่อเสียงอยู่ คือ ห้าง แกลเลอรีลาฟาแยตต์ (Galeries Lafayettd) และ แพร็งตองป์ (Printemps)
ที่นั่ง VIP
พื้นที่สำหรับนั่งชม
แกลเลอรี่ลาฟาแย็ตต์ Galleries Lafayette
เป็นห้างใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในฝรั่งเศส และมีสาขาทั่วประเทศ มีสินค้าเบรนด์เนมมากมายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน น้ำหอม และไวน์ที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส
ประดับตกแต่งอย่างสวยงามโดยเฉพาะยอดโดมบนเพดานของห้าง จะตกแต่งด้วยกระจกสีสไตล์ไบแซนไทน์สูง 33 เมตรอยู่กลางห้าง
มีกิจกรรมลดราคาปีละ 2 ครั้งคือช่วง
Summer Sale เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน - ต้นเดือนกรกฏาคม
Winter Sale เริ่มตั้งแต่กลางเดือนมกราคม - ต้นเดือนมีนาคม
ไม่เฉพาะที่แกลเลอรี่ลาฟาแย็ตต์ฺเท่านั้นที่จัดกิจกรรมลดราคา ทุกที่ทั่วประเทศฝรั่งเศสก็มีเช่นกัน ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรามีความสุขมากที่สุด และเสียเงินมากที่สุดอีกด้วย (- -)"
จัตุรัสวองโดม (Place Vendome)
ปลาชวองโดม เป็นจัตุรัสที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสเช่นกัน เนื่องจากรายล้อมด้วยร้านขายเพชรทองมีค่าราคาแพง และร้านเบรนด์เนม มีโรงแรมปาร์คไฮแอทและโรงแรมริตซ์อันหรูหราอยู่บริเวณนี้เช่นกัน บนยอดเสาของกลางจัตุรัสมีรูปปั้นนโปเลียนตั้งอยู่ด้วย (เสียดายหารูปไม่เจอ เลยไม่ได้เอามาลงให้ดู (- -)")
ประตูชัยเล็กและสวนตุยเลอรี (Arc du Carrousel & Jardin des Tuileries)
อาร์ก ดู การ์รูแซล หรือประตูชัยเล็ก ตั้งอยู่ทางตะวันตกของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ตรงข้ามกับปิรามิดแก้วและอนุสาวรีย์พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ส่วนสวนตุยเลอรีจะตั้งอยู่ระหว่างประตูชัยเล็กกับจัตุรัสกงกอร์ด ปัจจุบันกลายเป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนได้พักผ่อน
พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Musee du Louvre)
สถานที่แห่งนี้เคยเป็นพระราชวังมาก่อน ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่แสดงผลงานจำนวนกว่า 400,000 ชิ้น แต่นำมาแสดงแค่ 40,000 ชิ้นเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็จะสลับสับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ มีทั้งผลงานศิลปะวัตถุสมัยอีทรัสกัน กรีก โรมัน อียิปต์ ภาพเขียน และประติมากรรมต่างๆ ซึ่งผลงานเหล่าีนี้ส่วนมากได้มาจากการปล้นสะดม การชนะสงครามในสมรภูมิต่างๆ แล้วขนกลับมา
การเข้าชมที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อาจต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะได้ชมครบทุกชิ้น อิอิ คงต้องไปกันบ่อยๆ
ปิรามิดแก้วหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟร์
ด้านตัวอาคารพิพิธภัณ์ฑ์
ระหว่างทางเดินเข้าพิพิธภัณฑ์คะ
แล้วมาติดตามกันอีกครั้งในตอนที่ 2 นะคร๊าาา ^_*