เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 2010 ช่วงหน้าร้อน......
และเป็นครั้งแรกที่จะได้ไปเที่ยวทะเลในเมืองหนาว ตื่นเต้นมว๊ากกกกคะ
เมือง Arcachon อยู่ห่างจาก Bordeaux ประมาณ 70 กม. (อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส) เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีภูเขาทรายที่เรียกว่า Dune du Pilat สวยงามมาก
ภูเขาทรายแห่งนี้ มีขนาด ความสูง 105 ม. ความกว้าง 500 ม. และความยาว 2.7 กิโลเมตร มีจำนวนทรายถึง 60 ล้านลูกบาศก์ตารางเมตรคะ จำนวนทรายมาทับถมกันได้ก็ด้วย กระแสลม ที่ผ่านเข้ามาทางทะเลและทับถมกันเป็นชั้นๆขึ้นไปก้เลยเกิดเป็น Dune du Pilat ขึ้นมาคะ น่ามหัศจรรย์มั้ยละคะ
วันที่ไปอากาศดีมาก แดดแรง ทำให้ความหนาวจากกระแสลมเบาบางลงไปบ้าง รู้แล้วหละว่าทำไมฝรั่งจึงชอบอาบแดดกัน เนื่องจากประเทศนี้เป็นประเทศเมืองหนาว พอได้เจอแดดเขาจะดีใจมาก เหมือนเราตอนนี้แหละ อิอิ
ภูเขาทรายอยู่ด้านหลังคะ เขาเอาบันไดพลาสติกมาตั้งไว้ เพื่อให้ขึ้นได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเดินกันจนลิ้นห้อยคะ
ระหว่างทางขึ้น บางคนก็วิ่งลงมาจากยอดเขาโดยไม่ต้องใช้บันได้ สนุกสนานกันเลยทีเดียว แต่ต้องระวังหัวคะมำนะคะ
ขนาดมีบันไดช่วย ยังลิ้นห้อยเลยคะ
ถึงแล้วคะ มองลงไปข้างล่างน่ากลัวดี (- -)"
วิวสวยมากคะ อากาศก็ดี
Help me!!
ทรายละเอียดมากคะ
ข้างบนบรรยากาศดี มองไปด้านซ้ายจะเห็นทะเลสีคราม
ด้านขวาจะเป็นป่า ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
หลังจากนั้นมาเดินเที่ยวในเมืองกัน ไปดูโบสถ์ยอดฮิต (มาเมืองฝรั่งเราไปดูโบสถ์ แต่ถ้าฝรั่งไปเมืองไทยจะไปดูวัดกัน)
ทะเลที่นี่สวยคะ แต่ค่ำๆ หนาวเหมือนกันแฮะ
คุณแฟนพามาที่หมู่บ้านชาวประมง ที่นี่เขาเลี้ยงหอยนางรมกันเป็นหลัก
มีร้านอาหารเปิดแต่เช้า ขายหอยนางรมกะไวน์ เข้ากั๊นเข้ากัน
ร้านอาหารน่ารักๆ เราเลยแวะร้านนี้ตอน 10 โมงกว่าๆ
เพิ่งจะเริ่มตั้งร้าน ยังไม่เสร็จดี เราเป็นแขกคนแรก
เพิ่งจะเริ่มตั้งร้าน ยังไม่เสร็จดี เราเป็นแขกคนแรก
แฟนแอบขำนะ เพราะฮีไม่กินช่วงเวลานี้ แต่เดี๊ยนไม่แคร์คร่า
บีบมะนาวสดๆ ลงไปในตัวหอยนี้ ถึงรสชาติจะไม่เผ็ดร้อนแบบบ้านเรา
แต่ก็ได้รสชาติไปอีกแบบ ธรรมชาติมากๆ หอยซ้ดสด
แต่เขาจะมีน้ำจิ้มให้เหมือนกัน จะเป็นเวเนก้า (น้ำส้มสายชู กับกระเที่ยมหั่นละเอียด) เสริ์ฟคู่กัน
นี่เลยคะ มาชมกันจะๆ ของเค้าสดจริงๆ
หลังจากนั้นคุณแฟนฮีนัดเพื่อนรักสมัยเรียนไว้ด้วย วันนี้จะได้เจอเป็นครั้งแรก และที่เซอร์ไพรซ์คือ เพื่อนฮีคนนี้เกิดวันเดียว, เดือนเดียว แถมปีเดียวกะเราอีกต่างหาก อยากรู้จริงๆ ว่าหน้าตาจะเป็นเยี่ยงไร หุหุ
แต่ก็ได้รสชาติไปอีกแบบ ธรรมชาติมากๆ หอยซ้ดสด
แต่เขาจะมีน้ำจิ้มให้เหมือนกัน จะเป็นเวเนก้า (น้ำส้มสายชู กับกระเที่ยมหั่นละเอียด) เสริ์ฟคู่กัน
นี่เลยคะ มาชมกันจะๆ ของเค้าสดจริงๆ
หลังจากนั้นคุณแฟนฮีนัดเพื่อนรักสมัยเรียนไว้ด้วย วันนี้จะได้เจอเป็นครั้งแรก และที่เซอร์ไพรซ์คือ เพื่อนฮีคนนี้เกิดวันเดียว, เดือนเดียว แถมปีเดียวกะเราอีกต่างหาก อยากรู้จริงๆ ว่าหน้าตาจะเป็นเยี่ยงไร หุหุ
ระหว่างรอ เราก็เดินเที่ยวชมเมืองชายทะเลไปเรื่อยๆ นะ
ท่าเทียบเรือ โห้เมืองนี้ท่าทางจะมีแต่คนมีตังค์เนอะ
ตอนแรกนึกว่าจะรอกินมื้อเที่ยงพร้อมกับเพื่อนฮี แต่พอโทรไปคุงเพื่อนบอกว่าไม่ต้องรอ
เขาและแฟนจัดการมาเรียบร้อยแล้ว เลยไปหาร้านพิซซ่ากินกัน
จานนี้สำหรับ 1 คนเท่านั้นนะคะ โอวแม่เจ้า!!
กินคนเดียว ขอให้อ้วน ชิ!!
เจอกันแล้วคะ ลูกสาวเพื่อน น่ารักจัง พูดเก่งมาก ขนาดพูดกันคนละภาษา
แต่ชียังสามารถคุยได้ไม่หยุด เอิ๊ก
ริมทะเล........
ในเมือง มีมุมเก๋ๆ เพียบเลย อากาศอุ่นๆ ลืมกลัวดำกันเลยทีเดียว
ขออนุญาติเก็บภาพหน่อยนะคร๊า
ได้เวลามื้อค่ำแว้ววววว ไปหาไรหม่ำกันดีกั่ว มื้อนี้ขอ Seafood หนักๆ เลยน๊า
จัดเต็ม มาครบทั้งมหาสมุทรกันเลยทีเดียว เอแต่ว่าเนยเอามากินกะอะไรละเนี่ย
กรี๊ดดดด ไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดอะ (แบบว่าลืมตัว ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทยนะตัวเทอ)
จัดไป คนเดียวเลย
จานนี้ของแฟนคะ จัดจานสวยดี แต่น้อยเกิ๊น
เพื่อนร่วมโต๊ะอาหารตัวน้อย ชื่อริรูคะ
ก่อนกลับแอบกระซิบที่รักว่าขอแวะไปกินหอยนางรมที่เดิมอีกรอบนะ คุงซะมียิ้มแล้วหัวเราะถามว่ายูบ้าหรือเปล่าเนี่ย แต่ก็ตามใจ คงสงสารเพราะมาอยู่นี่อดอยากมานาน ไม่ค่อยได้กินอาหารทะเลเท่าไร กินแต่เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ (แต่เนื้อวัว เนื้อหมู ที่นี่อร่อยจริงๆ นะ เนื้อที่เขาเอามาทำสเต็กกันไม่ได้หมักอะไรทั้งสิ้น ซื้อมาสดๆ แล้วเอาลงกระทะโรยเกลือ พริกไทย แค่นั้นจบ แต่อร่อยได้ใจจริงๆ) เนื้อสัตว์ที่นี่ถูกสุขลักษณะจริงๆ ถ้าหมดอายุถึงแม้จะขายไม่ได้ก็โยนลงถังขยะหมด แถมต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เขากำหนดด้วย มาวางขายตามตลาดนัดเหมือนบ้านเราไม่ได้เด็ดขาด ยาวเลย... เหอๆ
อยากไปกินบ้างจัง ชอบมากกกกก
RépondreSupprimer