mercredi 27 juillet 2011

ปลาผัดซอสครีม (สไตล์มิดหมีคะ)

เมนูนี้ทำบ่อยคะ คุณแฟนบอกอร่อย คือพยายามหัดทำอาหารฝรั่งบ้าง กลัวคุณแฟนจะเบื่ออาหารไทยคะ ก็อแดพเอาตามแบบที่เราชอบและคุ้นเคยคะ

ก่อนอื่นก็นำแครอทมาปลอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ (หรือจะใช้เป็นผักอย่างอื่นก็ได้ แล้วแต่ชอบคะ)
แล้วนำไปต้มให้สุกปานกลางคะ (เพราะมันสุกยากกลัวเอาเข้าเตาอบแล้วมันจะไม่สุกนะคะ)


เกือบลืมคะ อุปกรณ์ที่ใช้มีดังนี้คะ




ต่อไปก็นำหอมใหญ่ที่หั่นไว้ลงไปผัดให้หอมคะ ใส่เห็ดลงไป จากนั้นก็ใส่ซอสครีมลงไปคะ







ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ชิมรสตามชอบคะ


ใส่ปลาที่เราเตรียมไว้ลงไป แป๊บเดียวคะ 





แล้วเรามาเตรียมเอาแครอทที่ต้มไว้ ใส่ลงไปในฟอยท์ 
แล้วเอาปลาและน้ำซอสที่เราผัดไว้มาวางทับลงไป


เช่นนี้คะ


เสร็จแล้วเอาเข้าเตาอบ สักครึ่งชั่วโมงคะ


เสร็จแล้วคะ หน้าตาเป็นแบบนี้ ทานกับข้าวสวยคะ

ข้าวผัดปลาเค็ม

กลับมาจากเมืองไทยรอบนี้ ซื้อปลาอินทรีย์มาด้วย 3 ชิ้นคะ ตอนแรกนึกอยากกินผัดคะน้าปลาเค็ม แต่รอผักคะน้ามาหลายอาืทิตย์แล้ว ก็ยังไม่มีสักที เลยเปลี่ยนเมนูมาเป็ีนข้าวผัดปลาเค็มแทนคะ

ส่วนผสมในการปรุงก็ง่ายๆ เลยคะ เหมือนข้าวผัดทุกอย่าง เพียงแต่เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์มาเป็นปลาเค็มแทน
อันดับแรกก็นำปลาอินทรีย์ไปทอดให้เหลืองคะ


หลังจากนั้นก็มาเลาะก้างออกให้หมด 
เตรียม แครอทหั่นเต๋า, หอมใหญ่, มะเขือเทศ วันนี้ได้ถั่วลันเตามาด้วยคะ แกะเอาเม็ดออก
เตรียมกะทะใส่น้ำมัน และหอมแดงบุบลงไปทอดให้หอม


ใส่ผักลงไปผัดให้สุก (ในที่นี้หมายถึงผักที่สุกยากเช่น แครอทคะ) แล้วตอกไข่ใส่ลงไปคะ นำปลาอินทรีย์ที่ทอดไว้แล้วลงไปยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ หลังจากนั้นก็นำข้าวลงไปผัด ใส่มะเขือเทศ หอมใหญ่ ปรุงรสด้วยซีอิ้วดำ น้ำปลา (หรือรสดีก็ได้คะ) น้ำตาลนิดหน่อย ปรุงรสตามชอบคะ


เสร็จแล้วคะ อยู่นี่ทำตามมีตามเกิดคะ (หมายถึงอุปกรณ์ หรือผักบางชนิดไม่มี หาไม่ได้ ก็ไม่ได้ใส่คะ ปกติแล้วจะใส่ผักคะน้ำ และต้นหอมด้วยก็ได้)

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

เมื่อก่อนไปกินข้าวร้านอาหารกับเพื่อน เมนูนี้จะถูกสั่งบ่อยที่สุด กินง่าย กินเป็นกับแกล้มก็ดี เราไม่ค่อยชอบทานกับข้าว เพราะมันเหมาะจะเป็นของกินเล่น หรือกับแกล้มมากกว่า และคิดว่าคงจะทำยากอยู่เหมือนกัน พอมีแฟนเป็นฝรั่ง จึงได้มาทำกินเอง และทำบ่อยมาก เพราะคุณแฟนชอบกิน มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยนี่นา บางอย่างเราก็ปรับเปลี่ยนตามสไตล์ที่เราชอบ และที่สำคัญแฟนไม่กินเผ็ดคร่า ^_*

ส่วนประกอบในการปรุง

1. เนื้อไก่ (หรือจะเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อย่างอื่นก็ได้ที่เราชอบ)
2. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (ทอดแล้ว)
3. แป้งข้าวโพด
4. เห็ดฟาง (แต่อยู่ีนี่เราใช้เห็ดแชมปีญอง)
5. หอมใหญ่
6. กระเทียม
6. น้ำมันหอย
7. รสดี (หรือน้ำปลาก็ได้คะ)
8. น้ำตาล
9. ต้นหอม
10 พริกแห้ง

ก่อนอื่นก็นำไก่ที่หั่นเป็นชิ้นเรียบร้อยแล้ว มาคลุกในแป้งข้าวโพด แล้วนำลงไปทอดในน้ำมันให้เหลือง



คลุกเสร็จแล้วนำไปใส่ในกระทะเลยคะ





มันจะกรอบๆ นะคะ พอเสร็จแล้วก็ตักใส่จานแยกไว้ก่อน 
หลังจากนั้นนำกระเทียมสับละเอียดมาทอดให้หอม เสร็จแล้วก็นำเห็ด, หอมใหญ่ มาผัดให้พอสุก แล้วใส่น้ำมันหอย, รสดี, น้ำตาล, น้ำเปล่านิดหน่อยปรุงรสตามใจชอบ ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์, ต้นหอมลงไป




เราจะนำน้ำซอสที่ปรุงแล้วแล้วเอามาราดในไก่ที่ทอดไว้แล้วก็ได้ หรือจะนำไก่ที่เราทอดมาคลุกในน้ำซอสที่เราปรุงก็ได้ แต่เอาลงกระทะแค่แป๊บเดียวนะคะ ไม่งั้นไก่ที่กรอบๆ อาจจะเหนียวได้
(พอดีวันนี้ไม่มีต้นหอมคะ เลยไม่ได้ใส่)




ลืมไปอย่างนึงคะ หุหุ เอาพริกแห้งไปคั่วให้กรอบ แล้วนำมาโรยหน้าด้วยคะ

jeudi 21 juillet 2011

ขาหมูโอวัลติน

ช่วงนี้กำลังขยัน ฟิตจัด นึกอยากเขียน blog ทั้งวัน เลยต้องรีบก่อนไฟจะหมดซะก่อน

ขาหมูที่นี่หายากเหมือนกัน นานๆ จะมีมาสักที สงสัยเอาไปทำแฮมหมด เหอๆ ตอนหยิบคุณแฟนมองหน้าเลย มันอ้วน you รู้มั้ย !!
รู้แต่อยากกินอะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

ก่อนอื่นเอาขาหมูมาขูดๆ เอาขนที่มันติดมาออกก่อน หลังจากนั้นก็เอากระเทียม พริกไทย รากผักชี (แต่ของเราไม่มีรากผักชี เราจะใช้ลูกผักชีเอาไปคั่วให้หอม) แล้วเอามาโขลกรวมกัน แล้วเอาใส่ลงกระทะ ใส่น้ำมันนิดหน่อย (กลัวอ้วน) ผัดพอหอมหลังจากนั้นเอาผงพะโล้ลงไปผัดพร้อมกัน นำน้ำตาลปี๊บมากวนในกระทะให้พอเหนียว  (หรือจะใส่ทีหลังก็ได้) ใส่น้ำเปล่าลงไปนิดหน่อยเพื่อไม่ให้ติดกระทะ แล้วนำไข่ต้มที่ปลอกเปลือกเรียบร้อยลงไปในกระทะ ผัดให้น้ำตาลเคลือบกับไข่ ให้พอออกสีน้ำตาลนิดๆ

แล้วเอาทุกอย่างที่ผัดไว้มาแทใส่หม้อที่เราตั้งน้ำไว้ รอจนน้ำเดือนใส่ขาหมูลงไป ใส่ซีอิ๊วดำ, น้ำปลา, โป๊ยกั๊ก, อบเชย เคี่ยวไปเรื่อยๆ เอาโอวัลตินละลายน้ำแล้วเทใส่หม้อลงไปด้วย แล้วปรุงรสตามชอบ ของมิดหมีเวลาทำขาหมูใช้เวลานานหลายชั่วโมงเลยทีเดียว ต้องคอยเอาส้อมจิ้มดูว่านิ่มหรือยัง


ใส่ผักกาดดองลงไปด้วย แต่ถ้าใครไม่ชอบเละๆ ก็ใส่ทีหลัง










เสร็จแล้วคะ ส่วนน้ำจิ้มก็น้ำจิ้มซีฟู้ดนี่แหละคะ ใช้พริกขี้หนู, กระเทียม นำมาโขลกรวมกัน ใส่น้ำส้มและน้ำปลา (หรือจะใช้เกลือแทนก็ได้คะ) ใส่น้ำตาลนิดนึงเพื่อให้รสชาติออกเปรี้ยวหวาน

ข้าวมันไก่

มาอยู่นี่รู้สึกว่าจะทำข้าวมันไก่กินไป 3 ครั้งแล้ว อร่อยใช้ได้เลยแหละ กลับไปเมืองไทยยังกลับไปทำให้พ่อแม่กินด้วย พ่อบอกอร่อยกว่าไปกินที่ร้านอีก อิอิ ดีใจ

วิธีทำก็ไม่ยากเลย เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า


น้ำจิ้มข้าวมันไก่

1. เต้าเจี้ยว
2. น้ำส้มสายชูอย่างดี
3. น้ำตาล
4. ซีอิ้วขาว
5. น้ำซุปจากข้าวมันไก่
6. ขิงแก่
7. กระเทียม
8. พริกขี้หนูสด

เอาทุกอย่างมาปั่นรวมกันคะ ทุกอย่างมิดมี๋จะใส่ในปริมาณที่เท่ากันคือ 2 ช้อนโต๊ะ พอปั่นเสร็จแล้วก็จะหั่นขิงกับกระเทียม และพริกขี้หนูซอยใส่ลงไปอีกเพื่อความสวยงาม






นี่คะเสร็จแล้วออกมาเป็นแบบนี้


ต่อไปเรามาต้มไก่กันคะ ง่ายๆ เลยเอาไก่มาล้างทำความสะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง เอาเกลือมาทาให้ทั่วตัว หลังจากนั้นเอากระเทียมบุบพอแตกใส่ไปในน้ำต้มไปพร้อมกัน สักประมาณครึ่งชั่วโมงคะ ถ้าใครชอบทานเครื่องในก็เอาใส่ไปด้วยได้เลยคะ

ก่อนต้มตัดหนังส่วนเกินแยกไว้บางส่วน เพื่อเอามาทอดให้ได้น้ำมันจากไก่ หลังจากนั้นเอากระเทียมที่เราตำแล้วมาทอดในน้ำมันที่เราได้จากไก่ พอหอมคะ

หลังจากนั้นเรามาหุงข้าวกันคะ เอาข้าวหอมมะลิหุงตามปกติเลยคะแต่เอาน้ำซุปที่เราต้มไก่ใส่แทนน้ำเปล่า หั่นขิงเป็นแว่นสัก 2-3 แว่น ใส่ลงไปด้วย และเอาน้ำมันกระเทียมเจียวที่เราทอดไว้มาแทใส่ไปในหม้อข้าวด้วย หุงไปจนสุกก็จะได้ข้าวมันคะ

พอไก่สุกเราก็มาจัดการแร่เป็นชิ้นๆ จัดจานให้สวยงาม ใส่แตงกวาลงไปด้วย แต่ถ้าใครชอบทานขิงดองก็ทานคู่กันก็ได้คะ อร่อยดีมิดหมีชอบคะ


นี่คะข้าวมัน ภาพอาจไม่ชัดนักนะคะ (- -)"




ไก่ต้มสุกแล้วเอามาหั่นเป็นชิ้นๆ คะ


จัดจานให้สวยงามคะ



ส่วนน้ำซุปมิดหมีก็ใช้น้ำต้มไก่นะแหละคะ แล้วเอาฟักใส่ลงไป แค่นี้ก็เสร็จแล้วคะ

ขอให้มีความสุขกับการรับประทานนะคะ ^_^

mercredi 20 juillet 2011

2 อาทิตย์ีที่เยอรมัน (ตอน 2) Nurnberg เนิร์นแบร์ก

วันนี้วันเสาร์ คุณแฟนหยุดงานเลยพาไปเที่ยวที่เมืองเนิร์นแบร์ก เพราะฮีรู้ว่าเราเยี่ยมเยียนเมือง Bamberg ซะจนทุกซอกทุกมุมแล้ว เลยทำหน้าที่สามีที่ดีพาไปเที่ยว เห็นบอกว่าเมืองนี้ใหญ่กว่าเมือง Bamberg ที่เราอยู่ซะอีก มีร้านรวงขายของเยอะมาก...... งั้นเราไปกันเลยดีกว่า

Nurnberg ตั้งอยู่ในรัฐบาเยิร์น (Bayern) หรือรัฐบาวาเรีย (Bavaria) อยู่ทางตอนเหนือของนครมิวนิคไปประมาณ 170 กม.


เมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำ Pegnitz และมีคลองเชื่อมแม่น้ำ 3 สาย คือ Rhine, Main, Danube Canal ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำของยุโรป  ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1051 - 1057 เมือง Nrunberg ได้ขายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ เป็นเสมือนเมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของจักรพรรดิ์เยอรมัน  เมื่อปี ค.ศ. 1219 Nurnberg ได้กลายเป็น Imperial Free City ในสมัยของจักรพรรดิ์ เฟรเดอริคที่สอง และกลายเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญควบคู่ไปกับเมือง Augsberg ตั้งแต่เส้นทางจากอิตาลีไปจนถึงยุโรปตอนเหนือ







ประตูทางเข้าที่เก่าแก่ของเมืองนี้คะ


จุดหมายเราอยู่ที่นั่นคะ โบสถ์แหลมๆ นั่น
อยู่หน้าโบสถ์แล้วคะ




สังเกตุที่ตัวตึกนี้นะคะ จะมีนาฬิกาสมัยโบราณ ที่มองยังงัยก็มองไม่ออกว่ามันกี่โมงแล้ว (- -)"



แวะเข้ามาในพิพิธภัณฑ์คะ มีอะไรให้ดูไม่มาก มีแค่รูปที่ติดอยู่บนฝาผนังไม่กี่รูป 
แล้วก็มีมงกุฎของกษัตริย์












เดินถัดมาจากตรงนี้หน่อยนึง ก็จะมีตลาดย่อมๆ ขายผัก ผลไม้ ดอกไม้คะ



มีช็อคโกแลตรสพริกด้วยคะ ฝรั่งกินกันได้ด้วยเหรอเนี่ย หุหุ


ช็อคโกแลต ของหวานล้วนแต่น่ากินทั้งนั้นเลย


น่าเป็นของฝาก






เล่นกับฟองสบู่ เด็กๆ มุงกันใหญ่


มีซุ้มขายของด้วยคะ แต่แอบเห็นเหมือนของมาจากจตุจักรบ้านเราเลยคะ 



แม่น้ำ Pegnitz


Frauenkirche Nürnberg


มื้อเที่ยงวันนี้เป็นซอสแซสกับขนมปังคะ ของขึ้นชื่อของเยอรมัน ต้องไม่พลาด


ของเราสั่งอันใหญ่ขวามือนั่นเลยคะ อิอิ


แต่แอบกระซิบบอกแฟนว่า เอาแต่ซอสแซสอย่างเดียวได้มั้ย ไม่ชอบขนมปังอะ
แต่เขาจัดมาอย่างนี้ก็ต้องกิน (กินแต่ซอสแซสนะ ส่วนขนมปังให้แฟน)


ขอเวลาหม่ำก่อนน๊า


Ehekarussell-Brunnen (น้ำพุ เอเฮ่ะคารุสเซลล์) หน้า Weiße Turm


der Weiße Turm 

 

บ้านสวยๆ