jeudi 15 septembre 2011

ข้าวอบเผือก

มีเผือกต้มอยู่ในตู้เย็นตั้งแต่เมื่อวานคะ บวกกับไม่มีอะไรอยู่ในตู้เย็นเลย มีแต่กุ้งแช่แข็ง กับปูอัดอยู่ 2 แท่ง นอกนั้นก็เป็นของแห้งที่มีติดบ้านไว้อยู่แล้ว เช่น เห็ดหอม, ถั่วแดง, แครอท เนื่องจากตอนนี้ไปเรียนทุกวัน เลยไม่สามารถทำมื้่อเที่ยงให้คุณซะมีได้ ให้ฮีกินที่บริษัทฯ แทน ตอนนี้จึงทำแต่มื้อเย็นคะ  ส่วนผสมจึงตามมีตามเกิดคะ (ซึ่งปกติแล้วเขาจะใส่กุนเชียง, เนื้อหมู ด้วย อันที่จริงกุนเชียงก็มีอยู่ในช่องฟีสคะ แต่กลัวอ้วนเลยไม่ใส่ อิอิ)

ส่วนผสม

1. ข้าวหอมมะลิ
2. กุ้ง, ปูอัด (ปกติจะใส่เนื้อหมู, กุนเชียงด้วย)
3. เห็ดหอม
4. แครอท
5. ถั่วแดง
6. เผือก
7. กระเทียม
8. ซีอิ้วขาว
9. ซอสหอยนางรม
10. เกลือ
11. น้ำตาล
10 พริกไทย

อันดับแรกก็หั่นเห็ดหอม และแครอทคะ ส่วนเผือกก็อย่างที่บอกพอดีต้มไว้แล้ว จึงไม่ต้องทำอะไรมาก ส่วนถั่วแดงก็แช่น้ำค้างคืนไว้ด้วยคะ เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่สุก (เคยลองมาแล้วคะ แข็งทานไม่ได้เลย)


หลังจากนั้นก็เจียมกระเทียมให้หอม แล้วนำกุ้ง, แครอท, เห็ดหอม และถั่วแดงลงไปผัดให้พอสุก (ไม่ต้องสุกมากก็ได้คะ เพราะต้องนำไปหุงในหม้อหุงข้าวอีก) หลังจากนั้นก็ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม, ซีอิ้วขาว, เกลือ ใส่น้ำตาลนิดหน่อย โรยพริกไทย ชิมรสตามชอบคะ (ให้รสเข้มข้นนิดนึงก็ดีคะ เพราะเด๋วต้องใส่น้ำลงไปอีกตอนที่หุงข้าว เด๋วรสชาติจะจืดไปคะ) ส่วนเผือกจริงๆ แล้วถ้ายังไม่ได้ต้ม ก็นำลงไปผัดพร้อมกันเลยคะ (แต่อันนี้ต้มไว้แล้ว กลัวจะและเลยไม่นำไปผัด)


หลังจากนั้น นำข้าวสารล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำลงไปผัดพร้อมกันเลยคะ สัก 2-3 นาที


เสร็จแล้วก็นำไปใส่หม้อหุงข้าว มิดหมีจะนำเผือกต้มใส่ไปตอนนี้เลยคะ และใส่น้ำลงไปเหมือนกับตอนที่เราหุงข้าวปกติเลยคะ


หุงตามปกติเลยคะ ระหว่างหุงจะได้กลิ่นหอมลอยมาแตะจมูกด้วย



เสร็จแล้วคะ น่าทานมั้ยคะ  ^_^

(รูปสีไม่เหมือนกัน บางอันมีขอบบางอันไม่มีขอบ 55555555 พอดีเอาไปตกแต่งนิดหน่อยใน Photoscape แต่ขี้เกียจแต่งทุกรูป เลยออกมาอย่างที่เห็น)


dimanche 11 septembre 2011

ซี่โครงหมูอบซอสส้ม

คุงซะมีเพิ่งกลับมาจากแคนนาดาเมื่อวาน เลยทำอาหารฝรั่งสไตล์คนไทยเอาใจซะหน่อย เพราะปกติจะทำแต่อาหารไทย กลัวจะเบื่อซะก่อน ชวนไปกิน KFC ก็ไม่ไป คุงชายบอกว่าอยู่แคนนาดา 2 อาทิตย์กินแต่อาหาร Fast food เบื่อมาก อยากกินอาหารฝีมือภรรยามากก่า หุหุ เข้าใจพูดเนอะ

เมนูนี้ทำหลายครั้งแล้ว คุณซะมีชอบคะ เคยทำเลี้ยงแขกฝรั่งมาแล้ว ทุกคนก็ชื่นชอบเช่นกัน เพราะมันไม่เผ็ด (แต่บางครั้งใส่ซอสพริกไป 2 ช้อนคุณซะมีแอบบ่นเหมือนกันว่าเผ็ด) มาเตรียมเครื่องปรุงกันดีกว่าคะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. ซี่โครงหมู (หรือจะเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อย่างอื่นก็ได้ บางครั้งมิดหมีจะใช้น่องไก่แทนคะ)
2. น้ำส้มคั้น (หรือถ้าไม่มีจะเป็น Orange Juice ที่ดื่มกันตอนเช้าแทนก็ได้คะ)
3. ซีอิ้วขาว (แต่ในรูปหยิบขวดผิดคะ หยิบเป็นซีอิ้วดำมาซะงั้น)
4. ซอสหอยนางรม
5. ซอสเปรี้ยว (มิดหมีใช้เวเนก้า หรือน้ำส้มสายชูนั่นเองคะ)
6. ซอสพริก
7. ซอสมะเขือเทศ
8. เกลือป่น
9. น้ำตาลทราย
10. เหล้าจีน แต่มิดหมีใช้ Rum แทนคะ
11. หอมใหญ่หั่นละเอียด
12. มันฝรั่ง


นี่คืออุปกรณ์บางส่วนคะ


นำส่วนผสมของซอสคือ ซอสมะเขือเทศ, ซอสพริก, ซอสหอยนางรม, ซีอิ้วขาว, น้ำส้มคั้น, เกลือ, น้ำตาล และเวเนก้า มาผสมให้เข้ากันชิมรสออกเปรี้ยว เค็ม หวานคะ


นำหอมใหญ่หั่นละเอียดผัดให้หอม หลังจากนั้นใส่หมูลงไปคะ


ระหว่างนั้นเราก็นำมันฝรั่งหั่น แล้วไปต้มคะ




ใส่หมูไปสักพักก็นำซอสที่เราผสมไว้มาเทใส่ลงไป และตามด้วยมันฝรั่งคะ (ไม่ต้องให้หมูสุกนัก เพราะเราจะเอาไปอบอีกรอบนึงคะ) แล้วใส่เหล้ารัมลงไปหน่อยนึงคะ


หลังจากนั้นก็นำใส่ภาชนะเพื่อเอาเข้าเตาอบคะ




เข้าเตาอบประมาณครึ่งชั่วโมงคะ


เสร็จแล้วคะ  แฟนจะชอบทานกับขนมปังด้วย หรือบางครั้งก็ทานกับข้าวสวยก็ได้เหมือนกันคะ





samedi 10 septembre 2011

ป่นปลา

แม่ชอบทำให้ทานบ่อยๆ คะ ชอบมากทานกับผักต้มทานได้เป็นกะละมังเลยแหละ ไม่รู้ที่อื่นเรียกแบบนี้หรือป่าว แต่ทางบ้านเราเขาเรียก "ป่น" พูดแค่นี้ก็เป็นอันรู้กันว่าคืออะไร ปกติแล้วแม่จะใช้ปลานิลทำ เพราะแถวบ้านหาง่าย มีคลองอยู่หน้าบ้าน แถมหลังบ้านก็เป็นบ่อปลาอีกตะหาก แต่แม่ไม่เคยทำแบบที่ใส่ปลาร้าให้กินเลย คนแถวบ้านไม่ค่อยทานกันอะ ถ้าเป็นปลาร้าก็จะเป็นปลาร้าหลน ปลาร้าทอดไรแบบนี้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลย วันนี้จะทำแบบสไตล์คนบางปะกงกันนะคะ ^_^

เครื่องปรุง

1. เนื้อปลา (ของเราใช้ปลาที่เขาทำเรียบร้อยแล้ว ตัดมาเป็นชิ้นๆ)
2. กระเทียม
3. หอมแดง
4. พริกขี้หนู
5. ข่า
6. น้ำปลา
7. มะนาว




นำหอมแดงกระเทียมมาปลอกเปลือกให้เรียบร้อย


หลังจากนั้นนำลงใส่กระทะ (โดยไม่ต้องใส่น้ำมัน) ปกติแม่จะเอาไปเผาคะ แต่เราไม่มีอุปกรณ์ก็ใช้วิธีนี้แทนคะ คั่วจนสุกก็ตักออก 


ใส่ครกตำพอหยาบๆ คะ   ส่วนปลาเราเอาไปต้มให้สุกเลยนะคะ


แล้วนำปลาที่เราต้มสุกมาตำรวมกันในครกที่เราตำไว้ก่อนหน้านี้ (ยังร้อนอยู่เลยคะ มีควันด้วย)


ตำพอละเอียด ก็นำน้ำที่เราต้มปลามาใส่นิดนึง ตามด้วยน้ำมะนาว, น้ำปลา เหยาะน้ำตาลนิดนึงคะ        ชิมรสตามชอบ


เสร็จแล้วคะ ทานกับผักต้ม หรือผักสดก็ได้คะแล้วแต่ชอบ







Eating enjoy นะคร๊า ^_^