samedi 17 novembre 2012

ปูอบวุ้นเส้น (Crab and glass noodles in casserole)






เพิ่งไปได้ปู  (Tourteau) สดๆ เป็นๆ ถูกๆ มาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเมื่อวานนี้ ตอนซื้อมันยังไม่ตายเลย ตัวใหญ่ด้วยหละ ตัวนึงก็กิโลนึงแล้ว โลละ 3.5 ยูโร มันถูกม้ากกกกกกเลยนะ มันคล้ายๆ ปูทะเลบ้านเรานะ แต่พยายามเปิดดิกดูว่ามันน่าจะตรงกับปูอะไรของไทยมากที่สุดก็ไม่เจอ เด๋วเอารูปมาให้ดูแล้วกันเนอะ





นี่แหละคะน้องปูที่น่าสงสาร ต้องกลายมาเป็นอาหารซะแล้ว........ ในโลกไฮเทคโนโลยีอย่างเดี๋ยวนี้ ไม่มีอะไรยุ่งยากอีกต่อไปคะ เพราะมีผงโลโบ้ช่วยชีวิต ฮ่าๆๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลา และหาเครื่องเคียงลำบากเหมือนอย่างเรานี่แหละ  งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. วุ้นเส้น
2. ปู
3. ผงอบวุ้นเส้น
4. น้ำมันพืช
5. ต้นหอม
6. ผักชีใบใหญ่ (คึ่นช่าย Celery )
7. พริกไทย

อย่างแรกเลยคือเอาวุ้นเส้นไปใช่น้ำให้นิ่มก่อนคะ หลังจากนั้นก็มาล้างทำความสะอาดปู และหั่นเป็นสี่ส่วน ส่วนกล้ามปูก็ใช้ค้อนทุบๆ ให้แตกนิดหน่อย จะได้แกะง่ายๆ คะ








หลังจากนั้นนำผงโลโบ้มาผสมในวุ้นเส้นที่แช่น้ำไว้จนนิ่มแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ลองชิมดูมันครบรสแล้วนะคะ ได้รสชาติของขิงด้วย มิดหมีเลยไม่ได้ใส่ขิงสดลงไปเลย เพียงแค่เอาน้ำมันพืชใส่ไปในภาชนะก่อนเพื่อไม่ให้วุ้นเส้นติด แต่ถ้ามีมันหมูก็ใส่มันหมูลงไปสักก้อนนึงก็ได้คะ  แต่คราวนี้มิดหมีใส่ปูลงไปก่อน เพราะปูสุกช้ากว่าวุ้นเส้นมาก แล้วจึงใส่วุ้นเส้นที่เราผสมผงอบวุ้นเส้นลงไปแล้ว แล้วปิดฝาคะ ตั้งไฟไว้ประมาณ 20 นาที ก่อนสุกก็ใส่ต้นหอมกับคึ่นช่าย (หรือ Celery) ลงไป





เสร็จแล้วคะ อันนี้เขี่ยเอาปูขึ้นมาดูว่ามันสุกหรือยัง วุ้นเส้นเลยลงไปอยู่ด้านล่างหมด หอมมากเลย ถ้าใครชอบพริกไทยเยอะๆ ก็ใส่พริกไทยทุบหยาบๆ ลงไปด้วยก็ได้คะ เพราะกลิ่นพริกไทยไม่ค่อยเยอะเท่าไร





ที่เหลือก็เอามาจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดคะ อร่อยสุดๆ เลย หายอยากเลยคะ








lundi 12 novembre 2012

ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ (Spicy lemongrass flavored flat noodles with pork)




เมนูนี้ภูมิใจนำเสนอมากๆ คือไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนี้ เหมือนกินที่เมืองไทยก็ไม่ปาน ฮ่าๆๆๆๆ แถมเดี๋ยวนี้วิธีทำก็ไม่ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อนด้วย มีตัวช่วยหลายอย่าง อย่างวันนี้ที่ทำเราใช้ผงทำก๋วยเตี๋ยวหมู ที่ซื้อกลับมาจากเมืองไทยด้วยเยอะเลยหละ เพราะชอบทานก๋วยเตี๋ยวมากๆ และทุกชนิดก๋วยเตี๋ยวเลยทีเดียว

แต่จริงๆ ก่อนทำก็โทรไปถามสูตรแม่เหมือนกัน เพราะแม่เป็นแม่ค้าขายข้าวแกง ขายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเราก็จะคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนเด็กๆ แม่จะใช้ให้เป็นลูกมือเตรียมเครื่องเคียง หั่นผักหั่นหมู เจียวกระเทียม เตรียมพริกดอง ฯลฯ งานพวกนี้เราผ่านมาหมดแล้ว ยิ่งเป็นวันเสาร์อาทิตย์ด้วยหน้าที่ก็จะจัดเต็มเลยทีเดียว ฮ่าๆ วันธรรมดาก็สบายหน่อยไม่ต้องทำเยอะเพราะต้องไปโรงเรียน

แม่บอกว่าตอนที่แม่ทำน้ำซุป (และเคยแอบเห็นอยู่) แม่จะใส่กระเทียมพริกไทย รากผักชีตำพอหยาบๆ แล้วใส่ลงไปในหม้อ รวมทั้งกระดูกหมู ใส่เกลือ น้ำตาลกรวด (นิดเดียว) กระเทียมดองและน้ำด้วย และเห็นมีน้ำซุปที่แม่ซื้อมาจากตลาดด้วย และหัวไชเท้าใส่รวมลงไป แล้วก็เคี่ยวไปเรื่อยๆ เมื่อก่อนแม่จะใช้เตาถ่านมันก็จะเคี่ยวไปทั้งวัน คอยเติมถ่านตลอด

เราก็ทำตามสูตรที่แม่บอกนี่ละ ยกเว้นกระดูกหมู ที่ฝรั่งเศสนี่หายากมาก กระดูกหมู หนังหมู เครื่องในหมู (เครื่องในหมูจะมีเป็นบางอย่างเช่นตับกับหัวใจ) เครื่องในวัว ตีนไก่ ฯลฯ คนที่นี่มักไม่ทานกัน ก็จะทิ้งลงถังขยะหมด เราก็จะใช้ซี่โครงหมูแทน ก็พอทดแทนได้บ้าง และที่สำคัญเราจะใส่ผงทำก๋วยเตี๋ยวหมูลงไปด้วย เคี่ยวไปสัก 1 ชั่วโมง หรือถ้ามีเวลาไม่มากก็แค่ครึ่งชั่วโมงพอ

พูดมาตั้งนานยังไม่ได้บอกส่วนผสมที่ต้องเตรียมเลยคะ

ส่วนผสมน้ำซุป

1. กระเทียม
2. พริกไทย
3. รากผักชี
4. กระดูกหมู (ซี่โครงหมู)
5. กระเทียมดอง
6. หัวไชเท้า
7. ผงทำก๋วยเตี๋ยวหมู

ส่วนวิธีทำก็ตามรายละเอียดด้านบนนั่นเลยคะ

ส่วนผสมก๋วยเตี๋ยว

1. เส้นก๋วยเตี๋ยวลวกแล้ว
2. ถั่วงอก, ผักคะน้า (แล้วแต่จะหาได้)
3. หมูสับ, ตับหมู
4. กุ้ง (จะมีหมู,ปลาหมึก ลูกชิ้น ฯลฯ ก็แล้วแต่ชอบเลยคะ)
5. เกี๋ยวทอด (เผอิญมีเกี๊ยวแช่อยู่ในช่องฟิตด้วย โชคดีไป)
6. ถั่วลิสงตำละเอียด
7. น้ำมะนาว
8. น้ำปลา
9. น้ำตาล
10. พริกป่น
11. ต้นหอมผักชีหั่น เอาไว้โรยหน้า
12. กระเทียมเจียว (ขั้นตอนนี้คงไม่ต้องอธิบายวิธีทำนะคะ)
13. พริกไทยป่น

หลังจากที่เราเตรียมน้ำซุปไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็จะมาลวกเส้นลวกผักกัน โดยตั้งน้ำให้เดือด แล้วนำเส้นนำผักลงไปลวกใส่ชามไว้ (ปล.ถ้าน้ำไม่เดือดแล้วนำเส้นลงไปลวกมันจะไม่สุก นุ่ม เหนียวคะ) หลังจากนั้นจะมาผสมในส่วนของน้ำต้มยำกันคะ มิดหมีจะใช้น้ำมะนาว 2 ช้อน, น้ำปลา 2 ช้อน น้ำตาล 1 ช้อน พริกป่นครึ่งช้อน, ถั่วลิสงป่น (สำหรับคนที่ชอบทานรสจัด) ใส่ผสมกันในถ้วยอีกใบนึง เสร็จแล้วนำหมูสับที่เรารวนไว้แล้ว (โดยหมูสับจะผสมกับกระเทียมสับละเอียด พริกไทย และรสดีลงไปด้วยคะ) มาใส่รวมกันในถ้วยแล้วเติมน้ำซุปลงไปสัก 1 ทัพพี (ลองชิมรสดูว่าชอหรือเปล่า) เสร็จแล้วนำน้ำต้มยำนี่เทใส่ลงในชามที่เราลวกเส้นลวกผักเตรียมไว้แล้ว เติมน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวอีกหนึ่งทัพพี (แล้วแต่ชอบน้ำขลุกขลิกหรือน้ำเยอะ)
โรยกระเทียมเจียว ต้นหอมผักชี พริกไทย ใส่กุ้ง ตับหมูที่ลวกแล้วลงไป แล้วปรุงรสเพิ่มตามชอบเลยคะ แต่ปกติแล้วก๋วยเตี๋ยวต้มยำแทบจะไม่ต้องปรุงอะไรแล้วเพราะเราปรุงในส่วนของน้ำต้มยำไปแล้ว

เสร็จแล้วคะ อิ่มอร่อยสมใจอยากเลย จนคุณสามีทักว่ามันอร่อยมากเลยหรือ ทำไม you ถึงได้ทำหน้ามีความสุขขนาดนั้น ฮ่าๆ (ใช่ซิก็ยูอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนของยุแล้วนี่ ของกินแล้วแต่จะเลือกสรรเลย) ชิ

ปล. วันหลังจะเอารูปวิธีทำมาลงเพิ่มนะคะ รอบนี้ถ่ายไว้แค่ตอนทำเสร็จแล้วคะ



ปล. เราไม่ได้บอกสัดส่วน เพราะปกติเราจะไม่มีเกณฑ์อะไรเป็นมาตรฐานเพราะจะใช้กะเอา และชิมไปเรื่อยๆ ตามความถนัดและชำนาญคะ

samedi 27 octobre 2012

สปาร์เก็ตตี้ซอสครีมไวน์ขาว



เมนูนี้ทำบ่อยคะ เพราะสามีชอบทาน บวกกับอาหารฝรั่งทำเป็นไม่กี่อย่าง และเมนูนี้ทำง่ายด้วย ทำทีไรสามีชมทุกที จึงใช้เป็นอาวุธประจำกายไปแล้ว เวลานึกอะไรไม่ออก กลัวสามีเบื่ออาหารไทย ก็จะมีเมนูนี้ผุดขึ้นมาในหัวเป็นอันดับแรกๆ

ขั้นตอนไม่ยากจริงๆ คะอย่างที่บอก แต่มิดหมีจะทำออกสไตล์ไทยๆ นิดหน่อยคะ วันนี้ใช้เส้นสปาเก็ตตี้แบบโฮลวีตคะ เพื่อสุขภาพนิดนึง ^_^

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. เส้นสปาร์เก็ตตี้
2. กุ้ง, เบคอน (หรือเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อย่างอื่นแทนก็ได้) แต่สามีบอกว่าปกติแล้วคนฝรั่งเศสเขาจะเลือกใช้แค่อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช้ปนกันเหมือนคนไทย ยกเว้นเมนูซีฟู้ด (แต่อาจจะไม่ใช่ทุกคน แต่ครอบครัวของสามีจะนิยมทำแบบนี้มาตลอด)
3. เห็ดแชมปิยอง
4. หอมใหญ่
5. เกลือ (แต่เราใช้รสดีแทน)
6. น้ำตาลทราย
7. ไวน์ขาว
8. พริกไทยป่น
9. น้ำมันพืช
10 ซอสครีม



(ขออภัยวันนี้ลืมถ่ายรูปขั้นตอนการทำ และอุปกรณ์ที่ต้องใช้ เพราะกะว่าจะทำกินเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจเอามาลงบล็อค แต่พอทำเสร็จแล้วมันอร่อย และภาพสวย เลยอดใจไม่ได้คะ ถ่ายซะหน่อย และเลยไปยืมภาพประกอบจากอัลบั้มอื่นมาใช้แทน เลยมีส่วนผสมแค่สามอย่าง อย่างที่เห็น)

อันดับแรกนำเส้นสปาร์เก็ตตี้ต้มในน้ำเดือด (ดูที่ข้างกล่องว่าใช้เวลาต้มกี่นาที แต่ละยี่ห้อและชนิดอาจจะใช้เวลาต้มแตกต่างกันไปคะ) เสร็จแล้วนำไปสะเด็ดน้ำให้แห้ง

หลังจากนั้นนำกระทะตั้งไฟ พอร้อนใส่หอมใหญ่หั่นละเอียด ผัดพอหอมก็ใส่กุ้ง เบคอน และเห็ดลงไปผัดพอสุก หลังจากนั้นใส่ซอสครีม และไวน์ขาว เติมด้วยรสดี (แต่ฝรั่งจะใส่เกลือแทน) เติมน้ำตาลนิดหน่อย แต่ส่วนมากฝรั่งจะไม่ใส่น้ำตาลคะ ชิมรสตามชอบ และยกลงเสริฟพร้อมสปาร์เก็ตตี้ โรยหน้าด้วยพริกไทย บางครั้งก็ใส่ชีสขูดโรยหน้าลงไปด้วย แต่ครั้งนี้ไม่ได้ใส่คะ สามีบอกเริ่มอ้วนแล้ว ฮ่าๆ



mercredi 15 août 2012

Tiramisu ทีรามิสุ


 วันนี้มีครูสอนทำทิรามิสุกิตติมศักดิ์ หุหุ น้องสาวคุณสามีนั่นเอง นางบอกว่าไอสอนยูทำทีรามิสุ แต่ยูต้องสอนไอทำปอเปี๊ยะทอดนะ อิอิ สมเหตุสมผล ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ
เลยชวนเพื่อนมาทำด้วยสองคน สนุกสนานกันไปคะ และวิธีทำไม่มีอะไรยุ่งยากเลย ง่ายมากเลยคะ แต่วันนี้เราทำกันสองรสชาติคะ มีรสสตรอเบอร์รี่กับรสกาแฟคะ เรามาเริ่มที่รสกาแฟกันก่อนแล้วกัน

ส่วนประกอบ

1. ไข่ไก่           3     ฟอง
2. น้ำตาลทราย          100         กรัม
3. น้ำหวานกลิ่นวานิลลา             1          ช้อนชา (เอาไว้ใส่ตอนทำใส้สตรอเบอร์รี่คะ)
4. ครีม Mascarpone    250         กรัม
5. บิสกิต                       2            กล่อง
6. ผงกาแฟ                   1/2        ลิตร
7. ผงโกโก้                   30           กรัม (สำหรับโรยหน้า)


 บิสกิต

 น้ำผลไม้กลิ่นวานิลา และกลิ่นสตรอเบอร์รี่

 ครีม Mascarpone

อันดับแรกนำไข่ไก่ 3 ฟองมาแยกไข่แดงไข่ขาวออกจากกันก่อน แล้วนำครีม Mascarpone กับน้ำตาลทรายใส่ลงไปในไข่แดง แล้วคนให้เข้ากัน

หลังจากนั้นตีไข่ขาวที่แยกไว้ให้ฟูจนตั้งยอด (โชคดีวันนี้น้องสาวสามีซื้ออุปกรณ์ในการตีให้ใหม่เอี่ยมเลยแกะกล่องเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลย)



 
ขออนุญาติลงภาพนางแบบอ้วนดำด้วยนะคะ หุหุ อันนี้น้องสาวสามีบอกว่าต้องตีจนฟูและตั้งยอดได้ และเมื่อเราคว่ำภาชนะแล้วไม่มีน้ำ หรือไข่ขาวไม่ไหลลงมาเป็นอันใช้ได้คะ


หลังจากนั้นนำไข่ขาวที่ตีจนตั้งยอดแล้วลงไปผสมกับไข่แดงและครีมที่เราตีจนเข้ากันแล้ว โดยต้องคนไปในทิศทางเดียวกัน และค่อยๆ คนไปเรื่อยๆ น้องสาวสามีบอกว่าถ้าคนเร็วจะยุบตัว ไม่ฟู


คนจนเข้ากันแล้วก็พักไว้ก่อน

หลังจากนั้นนำกาแฟมาผสมกับน้ำร้อนครึ่งลิตร (ผงกาแฟใส่ได้ตามจำนวนความชอบของเรา ถ้าชอบเข้มก็ใส่มากหน่อยคะ) เพื่อที่จะนำบิสกิตมาจุ่ม แล้วนำมาเรียงในถาดให้เต็มคะ














หลังจากนั้นนำครีมที่เราเตรียมไว้เททับลงไปบนบิสกิต ทำสลับกันแบบนี้สองชั้น



ปิดหน้าด้วยครีมอีกรอบนึงคะ 

นำผงโกโก้มาร่นด้วยตะแกรง โรยหน้าเป็นอันดับสุดท้าย

เสร็จแล้วนำใส่ตู้เย็นไว้ประมาณ 4 ชั่วโมงจึงทานได้คะ



สมาชิกที่มาเรียนด้วยกันวันนี้คะ




ส่วนอันนี้จะทำไส้สตรอเบอร์รี่คะ ขั้นตอนทำเหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่เปลี่ยนจากน้ำกาแฟ เป็นน้ำผสมกลิ่นวานิลา (หรือ สตรอเบอรี่) สำหรับจุ่มบิสกิต
และ การมีผลไม้คือ สตรอเบอรี่ เพิ่มลงไป เพราะรสกาแฟ เป็น ทีรามิสุต้นฉบับ ก็จะไม่มีอะไรนอกจากครีมกับบิสกิต เพราะงั้นเราก็สามารถปรับเปลี่ยนผลไม้ได้ตามต้องการ





 คนนี้เก็บตกตลอดทุกงาน คอยเก็บกวาดอุปกรณ์ คริคริ




 ครั้งแรกทำออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไร ครั้งต่อไปน่าจะดีขึ้น แต่รสชาติขอบอกว่าอร่อยเหาะคร้า ^_^

 

lundi 13 août 2012

ป่นกบ



ช่วงนี้ครอบครัวน้องสาวของสามีมาพักร้อนอยู่ด้วย ทำอะไรค่อนข้างลำบากหน่อย แต่สามีเข้าใจแอบสงสารเลยบอกว่า ยูทำอาหารไทยกินก็ได้นะ โอ้โห ! สวรรค์โปรดเลย แต่ไม่ได้ซื้อของสดติดตุ้เย็นไว้เลย เนื่องจากน้องสาวสามีเตรียมอุปกรณ์การกินเยอะแยะมากมาย ยัดไว้เต็มตู้เย็น (- -)"
คุ้ยไปคุ้ยมาในช่องฟิตเจอน้องกบนอนแข็งตายอยู่นานแล้ว เลยเกิดไอเดีย " ป่นกบ " ขึ้นมา อย่าคิดว่าฝรั่งเศสไม่มีกบนะคะ มีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปเลยคะ แต่เป็นแบบเช่แข็งและมีแค่ครึ่งตัวของน้องกบเท่านั้น

อุปกรณ์ในการปรุง

1. กบ
2. หัวหอม
3.  กระเทียม
4. น้ำมะนาว
5. น้ำปลา
6. น้ำปลาร้า (ไม่ต้องใส่ก็ได้)
7. น้ำตาล (นิดหน่อย)
8. พริกขี้หนู

ง่ายแสนง่ายคะ ทำแค่วัสดุที่มี ณ. ตอนนี้ แซ่บเว่อร์คะ



นำกระเทียม, หอมแดง และพริกขี้หนูมาคั่วให้หอม


ระหว่างนั้นก็ต้มน้ำให้เดือด และนำกบลงไปต้มให้สุกคะ


แล้วนำกบมาเลาะกระดูกออกแบบนี้





ตำกระเทียม หัวหอมกับพริกขี้หนูให้ละเอียด (ไม่ต้องมาก)

หลังจากนั้นก็นำกบลงไปตำรวมกัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำปลาร้า (ถ้าไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่เผอิญกลับเมืองไทยรอบนี้ได้น้ำปลาร้ากลับมาด้วย) เหยาะน้ำตาลนิดหน่อย และใส่น้ำต้มกบลงไปนิดนึง เราชอบกินแบบมีน้ำขลุกขลิกนะคะ



เสร็จแล้วคะ ขอบอกว่า แซ่บเว่อร์ ><