dimanche 6 novembre 2011

ตามรอยตุลุส เมืองสีชมพู

เมืองตุลุส ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสีชมพู ถิ่นกำเนิดแอร์บัส

มาแล้ว สดๆ ร้อนๆ ต้องรีบเขียนก่อนที่จะถูกดองเค็มเหมือนเมืองอื่นๆ หุหุ และก่อนที่จะนึุกไม่ออกซะก่อน
แต่เสียดายที่ไม่ได้ไปดูแอร์บัส เพราะว่าวันที่ไปเป็นวันหยุดยาวของฝรั่งเศส ที่นี่ต้องจองล่วงหน้าก่อนถึงได้เข้าไปชม

อาิทิตย์นี้มีวันหยุดยาว 4 วัน เสาร์-อังคาร ตอนแรกเลยเพื่อนคุณแฟนโทรมาชวนไปเที่ยวบาเซโรน่า ไปเป็นกลุ่มเพื่อนๆ จากที่ทำงาน (มิชลิน) รวบรวมได้ 7 คนแล้ว แต่ยังหาเพิ่มอีก 2-3 คน จะได้ช่วยกันหารค่าน้ำมัน และเที่ยวกันเยอะๆ น่าจะสนุกดี ตอนแรกอยากไปมากๆ เพราะยังไม่เคยไป และอยากไปกับเพื่อนๆ มั่ง รบเร้าแฟนขอให้ไป แต่แฟนยังลังเลอยู่ เพราะแกจะกลับจากเยอรมันเย็นวันศุกร์ แล้ววันเช้าวันเสาร์เราจึงเดินทาง ฮีบอกว่ากลัวจะเหนื่อย แต่พอตกค่ำ ฮีคงสงสารเห็นเราอยากไป เลยบอกว่าตามใจ ให้เป็นของขวัญวันเกิด  แต่พอตอนดึกๆ ฮีได้ forward อีเมลล์จากคุณเพื่อน ฮีเปลี่ยนใจซะอย่างนั้น พอเห็นตารางแล้วฮีบอกว่าเหนื่อยตายเลย เพราะแวะตามเมืองต่างๆ รายทางประมาณ 8 เมืองได้ จนสุดสถานีปลายทางที่เมืองบาร์เซโลน่า และแวะตุลุสด้วย เพื่อนเราอยู่เมืองนี้ด้วยคนนึง จึงอยากจะแวะไปหา ฮีบอกว่าแค่ขับรถก็ 24 ชั่วโมงแล้ว..... (- -)"

โอเคๆ ไม่ไปก็ได้ ก็เลยบอกว่างั้นเราไปเมืองตูลุสกัน 2 คนก็ได้ ฮีก็ตกลง เฮ้อ...... ค่อยยังชั่วหน่อย ^^

สรุปเราเดินทางกันเช้าวันอาทิตย์ วันเสาร์ขอไปดูเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านใหม่ก่อน และให้ฮีพักผ่อนซัก 1 วันก่อน เราทำหมูกระเทียมและหุงข้าวเหนียวไปกินกลางทางด้วย เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา และประหยัดงบประมาณ หุหุ ใช้เวลาขับรถประมาณ 4 ชั่วโมงโดยประมาณ ขาไปเราแวะ Albi กันด้วย แต่เอาไว้เขียนอีก บล็อคนึงแล้วกันเนอะ

เรานัดทานข้าวกันเพื่อนตอนค่ำที่บ้านเพื่อน ตอนแรกจะชวนไปทานร้านอาหารกัน แต่เพื่อนบอกว่าวันอาทิตย์ส่วนมากร้านปิด เราก็เลยสรุปว่ากินบ้านเพื่อนกันแทน เพื่อนจะโชว์ฝีมือด้วย เพราะอุตส่าห์กลับไปเรียนทำอาหารมาตั้งหลายหมื่น หุหุ

เด๋วขอเอารูปมาลงเรียกน้ำย่อยก่อนแล้วกันนะคะ


L'eglise du Taur
Cette eglise dont le nom rappelle le martyre du premier eveque saint Sernin, traine par un taureau, a la particularite d'afficher sur la rue un sperbe clocher-mur perce d'arcs en mitre
ภาพนี้เราเห็นจากในโปสการ์ด ในหนังสือไม่ได้เขียนบอกไว้ จึงเดินออกตามหาจนเจอ จะว่าไปก็ไม่ได้ตามหาหรอก เราเดินชมเมืองไปเรื่อยๆ จนเจอคะ สวยเหมือนในโปสการ์ดเลยหละ ชอบม๊ากๆ
ตอนหลังแฟนไปขอคู่มือการท่องเที่ยวที่ office de tourisme มาก็มีมุมนี้แนะนำไว้เหมือนกัน


เราชอบตึกน่ารักๆ แบบนี้ อาจจะแปลกไปจากคนอื่น หรือฝรั่งคนอื่นๆ ซะหน่อย เพราะส่วนมากเขาจะชอบดูโบสถ์กัน แต่เราชอบดูตึก หุหุ



L'eglise du Taur
Cette eglise dont le nom rappelle le martyre du premier eveque saint Sernin, traine par un taureau, a la particularite d'afficher sur la rue un superbe clocher-mur perce d'arcs en mitre
(Copy มาจากคู่มือที่ได้มาจากออฟฟิตสำหรับทัวริสคะ ภาษาฝรั่งเศสไม่ครบถ้วนด้วย เพราะไม่มีแป้นพิมพ์ภาษาฝรั่งเศสคร่า แงๆ)

บ้านเมืองที่ตูลุส ส่วนมากจะก่อสร้างด้วยอิฐสีแดง เป็นเอกลักษณ์ืที่สวยงามอย่างหนึ่งของเมืองนี้





ย่านนี้จะมีพวกมุสลิมอาศัยอยู่เยอะมาก มีร้านขายเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้แบบมุสลิมเยอะเลย

โบสถ์ที่อยู่ในเซ็นเตอร์ 
วันนี้วันอาทิตย์เขาจะมีการเข้าโบสถ์สวดมนต์กันด้วย






รูปนี้ถ่ายหน้าอพาร์ตเม้นท์เพื่อน อยู่ในเซ็นเตอร์เลย ดีจัง 
เราหลงรักบ้านเมืองที่นี่ซะแล้ว 


ตรงนี้คือเซ็นเตอร์ของเมืองนี้คะ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่มว๊ากกกก ร้านกาแฟน่ารักๆ น่านั่งก็เพียบ
ฝรั่งชอบมานั่งดื่มกาแฟรับแดดกัน

Hetel de Ville




สะพาน Neuf ที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้



Hotel Dleu St-Jacques หรือโรงพยาบาลนี่เอง

ด้านใน รพ.



เดินจนเที่ยงแล้ว เราจึงตกลงกันว่าจะไปกินข้าวที่ร้านเวียดนามกัน เอ้บอกว่าร้านนี้อร่อยที่สุดแล้ว
อยากกินจัง ^^

มาแล้วคะ จานแรกเรียกน้ำย่อยกันก่อน อร่อยมั่กๆ
ราคาไม่แพงคะ ราคาตั้งแต่ 5-10 ยูโร แล้วแต่เมนูอาหาร แต่ขอบอกว่าร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ค่อนข้างแคบด้วยซ้ำ แต่คนแน่นร้านเลยคะ
หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็เดินทางต่อคะ ^^

La cathedrale Saint - Etienne อยู่ใจกลางเซ็นเตอร์เลยเช่นกัน 

 เครื่องเสียงของโบสถ์ อลังการมากๆ เขาว่ากันว่าเมืองไหนจะร่ำรวยเพียงใด ให้ดูจากโบสถ์ และเครื่องเสียงของโบสถ์




เงียบสงบ แต่แฝงไว้ด้วยมนต์ขลัง 






ข้างๆ โบสถ์ เป็นตึกสวยๆ ศิลป์ได้ใจจริงๆ



 ตึกนี้สวยเนอะ



หลังจากนั้น เราก็เป็นเวลาช้อปปิ้งคะ อิอิ
รุ่งเช้าของวันใหม่อากาศไม่เป็นใจ ฝนตกตลอดเลย เราไปเดินเล่นที่สวยญีุ่ปุ่นกันคะ


ระหว่างทางขับรถผ่านเห็นคลองเล็กๆ ร่มรื่นมาก มีคนมาวิ่งจ๊อกกิ้งกันเยอะเลย 
ช่วงนี้ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีด้วย ได้ฟิลด์ไปอีกแบบ สวยคะ














ที่เมืองตุลุสมีร้านสเต็กอยู่ร้านนึงชื่อว่า L'entrecote วันแรกเห็นคนยืนต่อแถวกันยาวมาก ยาวจริงๆ นะคะ  ก็สงสัยว่าเขาต่อแถวทำอะไรกัน ได้ความว่าที่นี่เป็นร้านสเต็ก ณ.ตอนนั้นก็คิดในใจว่าต้องอร่อยแน่ๆ แต่คงไม่ไปต่อแถวหรอก กว่าจะได้กิน็หายอยากกันพอดี พอวันรุ่งขึ้นเราไปเดินในเมืองกันอีก และยังไม่เที่ยงดี ก็เลยได้ไอเดียชวนแฟนไปกินเพราะตอนนี้คนคงยังไม่ค่อยมี พอไปถึงร้านโชคดีมากเลย เพราะเราไม่ต้องต่อแถว ตอนนั้นก็ประมาณเที่ยง 10 นาทีได้ พอเรานั่งโต๊ะได้สัก 5 นาที โต๊ะก็เต็มแล้ว คนเริ่มมากันเยอะเลย ต่อแถวกันยาวเหยียด แถมฝนตกอีกต่างหาก แต่ก็ไม่มีใครย่อท้อกลับกันเลยนะคะ ยืนกางร่มต่อแถวกันยาวเหยียดเหมือนเดิม ประมาณบ่าย 2 แหละคนถึงได้หมด โอวมายก็อต!! แต่อร่อยจริงๆ คะ Confirm เนื้อเสต็กนุ่มสุดๆ น้ำซอสก็อร่อยไม่เหมือนใคร ออกเปรี้ยวนิดๆ มันฝรั่งจะมีพนักงานคอยมาถามตลอดว่าต้องการเติมเพิ่มมั้ย คือประมาณว่าเติมไม่อั้น แล้วก็จะมีสลัดผักพร้อมกับขนมปังให้ด้วย ที่นี่จะมีเมนูเดียวคะ คือทุกคนต้องสั่งเหมือนกันหมด สนนราคาก็ประมาณ 17 ยูโรต่อคน ไม่แพงเท่าไรคะ

ส่วนวันแรกที่มาถึงเราไปทานอาหารค่ำที่บ้านเอ้กันคะ รสมือเยี่ยมมากจริงๆ และกำลังจะเปิดร้านอาหารไทยในเร็วๆ นี้เช่นกัน อนาคตไปได้สวยคะ ^^
ใครที่มีโอกาสผ่านไปที่เมืองนี้อย่าลืมแวะไปอุดหนุนกันนะคะ อร่อยจริง ๆ คอนเฟิร์มคะ



" แพนงกุ้ง" จานนี้สุดยอดขอบอก


ป่นปลาก็แซ่บ

มีเนื้อแดดเดียวด้วยคะ อาหย่อย ^^

ต้องขอขอบคุณเอ้มากๆ เลยที่เป็นไกด์พาเที่ยว และยังมีอาหารอร่อยๆ ให้เราได้กินกันอีกด้วย _/\_







Aucun commentaire:

Enregistrer un commentaire